วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฟุตบอล : 10 ตัวเก็ง ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2014 นี้

10

ฟุตบอลโลกแต่ละครั้ง สิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ นอกจาก ตำแหน่งแชมป์ แล้วก็คง จะหนีไม่พ้น ดาวซัลโว ประจำทัวร์นาเมนต์ ที่ก็ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติเช่นเดียวกัน

รางวัล ดาวซัลโว นั้นคนที่ได้ไม่ใช่ตัวเต็งเสมอไป ก็เพราะว่าบางครั้งคนที่ได้รางวัลนี้ ก็จะเป็นพวกม้ามืด ที่เหนือความคาดหมาย อย่างครั้งล่าสุด ใครจะไปคิดว่า คนที่เริ่มทัวร์นาเมนต์ ในฐานะตัวสำรอง อย่าง โธมัส มุลเลอร์ จะจบเวิลด์คัพ 2010 ด้วยการคว้ารองเท้าทองคำมาครองได้

วันนี้ เราจะไปดู บรรดานักเตะที่สื่อต่างประเทศมองว่า จะเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลก ครั้งนี้กันครับ


1. ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า-บาร์เซโลน่า)

data-mce-src=http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/320/1600273/messi.jpg


ในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่า เมสซี่ จะฟอร์มตกไป แต่ก็ยังอุตส่าห์ยิงไปถึง 41 ประตู ซึ่งแม้ว่าช่วงท้ายอาจจะมีฟอร์มฝืด จนส่งผลให้ บาร์เซโลน่า ชวดแชมป์ ลีก แต่ ก็เหมือนกับว่า ใจของเขาลอยมายังฟุตบอลโลก ที่ บราซิล มากกว่า
เมสซี่ นั้นมักจะมีปัญหากับการเล่นฟุตบอลโลก โดย ในฟุตบอลโลกคราวที่แล้ว เขาก็เป็นตัวเต็งดาวซัลโวแบบนี้แหละ ก่อนที่สุดท้าย อาร์เจนติน่า จะต้องตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการพ่ายให้กับ เยอรมัน แบบหมดรูป และโดยตัวเขายิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว

แต่ถ้าหากพูดถึง สถิติการถล่มประตู ในนามทีมชาติช่วงสองปีหลัง นั้นต้องบอกว่าสุดยอด ยิงไป 18 ประตู จากการลงสนาม 16 นัดหลังสุด ยิ่งเมื่อดูจากคู่แข่งในรอบแรกอย่าง อิหร่าน ,บอสเนีย และ ไนจีเรีย ก็มีโอกาสสูงที่ ตัวของ เมสซี่ จะผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำเช่นเดียวกัน

2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส-เรอัล มาดริด)

data-mce-src=http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/320/1600273/ron.jpg


ปีนี้ จัดได้ว่าเป็นปีทองของ CR7 เลยก็ว่าได้ ที่ทั้งยิงไป 51 ประตู คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คว้าแชมป์ โกปา เดลเรย์ รวมถึง ทำสถิติ ยิงประตู ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก สูงสุดถึง 17 ประตู ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ เขาคือหนึ่งในตัวเต็งดาวซัลโวของฟุตบอลโลกคราวนี้

แต่แม้จะเก่งขนาดไหน ปัญหาใหญ่ ของเขาก็คือการที่ ทีมชาติโปรตุเกส ศักยภาพ ยังไม่พร้อมกับการขึ้นเป็นแชมป์โลก ทำให้ ภาระหนักมันขึ้นอยู่กับเขาคนเดียว และที่สำคัญ การที่ โปรตุเกส ถูกจับให้อยู่กลุ่มเดียวกับ ทีมแกร่งอย่างเยอรมัน ตั้งแต่รอบแรก นั้น ทำให้ ถือเป็นงานหนักพอควร สำหรับ โรนัลโด้ ที่จะได้ดาวซัลโวในคราวนี้

3. เนย์มาร์ (บราซิล-บาร์เซโลน่า)

data-mce-src=http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/320/1600273/ney.jpg


แม้ว่า ในบาร์เซโลน่า เขาดูจะโดน เมสซี่ กลบรัศมี แต่เพราะว่าในทีมชาติบราซิล เนย์มาร์ คือทุกสิ่งทุกอย่าง และยามเล่นในสีเสื้อของ เซเลเซา เขาเหมือนจะกลายเป็นคนละคน กับตอนเล่นที่สโมสร เรียกได้ว่า ถ้าคัดเฉพาะฟอร์มทีมชาติ เนย์มาร์ ถือเป็นระดับตัวท็อปเลยก็ว่าได้

เนย์มาร์ ถูกมองว่ามีโอกาสสูงที่จะคว้าดาวซัลโวในคราวนี้ จากการที่บราซิล เป็นเจ้าภาพ ทำให้พวกเขาค่อนข้างได้เปรียบคู่แข่ง ยิ่งเมื่อเจอกับทีมที่เป็นรอง ที่สำคัญ ประตูในช่วงหลังที่ บราซิล ทำได้ ก็มักจะมาจาก เนย์มาร์ นี่เอง ดังนั้น มีทางสูงที่เขาจะทำประตูเป็นว่าเล่นในเวิลด์ คัพครั้งนี้

ปัญหาก็คือ การแข่งขันในรอบน็อกเอาต์ ที่บราซิล ต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบที่สอง เพราะดูแล้ว คู่แข่ง น่าจะไม่เป็นสเปน ก็ ฮอลแลนด์ แต่ถ้าหากพวกเขาไปได้ไกลในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ เนย์มาร์ ก็มีโอกาสสูงที่จะพ่วงรางวัลรองเท้าทองคำ เข้าสู่โปรไฟล์ของตัวเอง

4. หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย-ลิเวอร์พูล)

data-mce-src=http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/320/1600273/ls.jpg


ในฤดูกาลที่ผ่านมา เรียกได้ว่า เป็นชันษาที่ดีที่สุดของ ซัวเรซ ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล เลยก็ว่าได้ เมื่อเขายิงประตูเป็นว่าเล่น จนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป ร่วมกับ โรนัลโด้ หลังยิงในลีก ไป 31 ประตู ช่วยให้ทีม หงส์แดง เป็นรองแชมป์ ลีก
ซัวเรซ คือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกของยุคนี้ เลยก็ว่าได้ เขาครบเครื่องทุกอย่าง ทั้งความเร็ว , การไปกับบอล และ การจบสกอร์ที่เฉียบคม แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือ เรื่องของอาการบาดเจ็บ ที่อาจทำให้เขาหายไม่ทันในการเล่นนัดแรกกับ คอสตาริก้า ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่มีโอกาสดีที่จะเมคประตูของ คิงหลุยส์

แม้จะเจ็บ แต่ถ้าดูจากฟอร์มในซีซั่นนี้ ก็คงมองข้าม คิงหลุยส์ จากตำแหน่งดาวซัลโว ไม่ได้อย่างแน่นอน

5. เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน (อุรุกวัย-แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

data-mce-src=http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/320/1600273/kun.jpg


ปีนี้เป็นปีที่ เอล กุน มีปัญหาบาดเจ็บออด ๆ แอด ๆ เล่นงานอยู่บ่อยครั้ง แต่ยามได้ลงสนามเขาก็ยังคงความเฉียบคมในการทำประตูไม่เสื่อมคลาย ยิ่งเมื่ออยู่กับทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่มีสตาร์ในแนวรุกมากมาย ก็ยิ่งเพิ่งโอกาสการทำประตูให้กับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม ตัวปัญหาของกุน นอกจากในเรื่องของอาการบาดเจ็บ ที่ยังคงเอาแน่นเอานอนอะไรไม่ได้แล้ว บางทีจำนวนประตู ที่เขาควรทำได้ อาจจะถูกแบ่งไปยังสตาร์เกมรุกรายอื่น ๆ โดยเฉพาะ เมสซี่ นั่นเอง

6. เฟรด (ฟลูมิเนนเซ่-บราซิล)

data-mce-src=http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/320/1601873/fred.jpg

ชื่อชั้นของเขา มีแค่คนร้องยี้ แต่ถ้าไปดูจริง ๆ เฟรด ก็ถือเป็นนักเตะที่เกิดมาเพื่อทำประตูโดยแท้ เขาอาจจะไม่เด่นในเรื่องของความเร็ว แต่ว่าเขาก็มีทีเด็ดในการจบสกอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากลายเป็นกองหน้าตัวจริงของทีมชาติบราซิลชุดนี้ แม้ว่าจะโดนหลายฝ่ายวิจารณ์ก็ตาม

เราอาจจะคุ้นชื่อเฟรด ครั้งสุดท้ายคือตอนที่เขาอยู่กับ โอลิมปิก ลียง แต่หลังจากที่ย้ายกลับมาที่บราซิล กับ ฟลุมิเนนเซ่ เขาก็ยิงประตูเป็นว่าเล่น ขั้นต่ำปีละ 30 ลูก จนกลายเป็นกองหน้าตัวจริงทีมชาติบราซิล ยิ่งถ้าหากเวลาคู่แข่ง เทไปประกบสตาร์ประจำทีมอย่างเนย์มาร์ ตัวของ เฟรด ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะจ่ายสกอร์ได้เช่นกัน

7.โรเมลู ลูกากู (เชลซี-เบลเยี่ยม)

data-mce-src=http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/320/1601873/rl.jpg

เบลเยี่ยม คือหนึ่งในทีมที่คาดว่าน่าจับตามองที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ด้วยสตาร์วัยรุ่นฝีเท้าจัดจ้านอยู่เต็มทีม โดยเฉพาะในแผงมิดฟิลด์ ที่นำโดย ตัวเปิดป้อนชั้นยอดอย่าง เอแด็น อาซาร์ , เควิน เดอ บรุยน์ หรือจะเป็น เควิน มิรัลลาส มันก็น่าจะเอื้อให้กับ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงประจำทีมไม่ใช่น้อย

ลูกากู มักจะมีผลงานที่ดีเสมอยามลงสนามให้กับทีมชาติ ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง และมีความเร็ว ทำให้ เขาถูกจับตามองว่า ในทัวร์นาเมนต์นี้จะเป็นปีแจ้งเกิดของเขาอย่างแน่นอน


8. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-ฮอลแลนด์)

data-mce-src=http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/320/1601873/rvp.jpg
แม้ว่าจะเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติ แต่ยามที่ลงเล่นในรอบสุดท้ายของ รายการใหญ่ อาร์วีพี มักจะฟอร์มดับอยู่เป็นประจำ อย่างในยูโร 2012 ก็เล่นไม่ออกจนต้องตกรอบแรก

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือ ที่ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาแทนที่ของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ ทำให้ ตัวของ ฟาน เพอร์ซี่ กลายมาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในทีมชาติ ซึ่ง ตอนนี้ น่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของเขากับการเล่นทีม อัศวินสีส้ม เลยก็ว่าได้

แม้ว่า จะต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแรก เพราะต้องอยู่รวมกลุ่มกับประเทศสเปน แถมยังมีโอกาสไปเจอ บราซิล ในเกมรอบสอง แต่เชื่อว่าถ้าหากฮอลแลนด์เบิกสกอร์ได้ มันก็มีโอกาสสูงที่คนนั้นจะเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

9. มิโรสลาฟ โคลเซ่ (ลาซิโอ-เยอรมัน)

data-mce-src=http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/320/1601873/mk.jpg

จริงอยู่ ที่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ไม่เคยมีใครได้ดาวซัลโวสองสมัย แต่ถ้าจะให้มองกระโดด มิสเตอร์บอลโลก อย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่ ไปนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกอย่างแน่นอน

แม้อายุจะปาเข้าไป 36 ปี แต่โคลเซ่ ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยความกระหาย เขาเหลืออีกแค่ประตูเดียว จะทำสถิติเทียบเท่ากับ โรนัลโด้ ดาวยิงชาวบราซิล ที่ทำประตูในศึกฟุตบอลโลก 15 ประตู แต่ว่า โคลเซ่ มองมากกว่านั้นนั่นคือการคว้าแชมป์โลก ในฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายในชีวิตนักเตะ

ด้วยความแข็งแกร่งของเยอรมัน ทำให้เชื่อว่า พวกเขาจะผ่านเข้ารอบลึกในทัวร์นาเมนต์ มีเกมให้โคลเซ่ มีโอกาสเบิกสกอร์มากมาย ซึ่ง ระดับโคลเซ่ แล้ว มันก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นเดียวกับ กับการเป็นดาวซัลโวอีกสักครั้ง

10. เอดิน เชโก้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้-บอสเนีย)

data-mce-src=http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/320/1601873/ed.jpg

แม้บอสเนีย มาเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็ถือเป็นที่น่าจับตามองโดยเฉพาะในแนวรุก ที่มี เอดิน เชโก้ เฝ้าคอยปักหลักถล่มประตู อย่างที่เราได้เห็นกันไปเมื่อช่วงรอบคัดเลือก

โอกาสที่ เชโก้ จะเป็นดาวซัลโวไม่ใช่ไม่มี เพราะ ดูจากคู่แข่งร่วมกลุ่มแล้ว นอกจาก อาร์เจนติน่า ทีมอื่นก็ถือว่าไม่ได้เหนือกว่าพวกเขา และที่สำคัญก็ไม่ได้มีเกมรับที่ดีอะไร จึงเป็นโอกาสดีที่ เชโก้ จะเบิกสกอร์ได้ แม้กระทั่งการเจอกับอาร์เจนติน่า ทีมเต็งที่ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องแนวรับเช่นกัน



รอบโลก ได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น