ฟุตบอล : ในชีวิตเคยสัมผัสกับเกมแดงเดือดมาแล้ว 2 ครั้ง
วิเคราะห์บอล ครั้งแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2005 และล่าสุดก็คือที่แอนฟิลด์ เมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา ไม่ต้องห่วงว่า แดงเดือด พ.ศ.หรือ ค.ศ.ไหน ยังไงก็มีอะไรให้พูดถึงทุกครั้ง ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะเป็นอย่างไร ยุค 70-90 ลิเวอร์พูล ยิ่งใหญ่ยืนยง แมนฯยูฯตกลงไปแบบไม่ใช่คู่แข่ง การต่อกรก็น่าสนใจ เช่นเดียวกับตั้งแต่ยุค 90 มาจนถึงปัจจุบัน แมนฯยูฯ กลับมายิ่งใหญ่ยืนยง ส่วน ลิเวอร์พูล ตกลงไปแบบไม่ใช่คู่แข่งการต่อกรก็ยังน่าสนใจอยู่ดี!
< โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดประตูนำชัยให้ ผีแดง ในเกมแรกที่พบกันในซีซั่นนี้ >
หากนับจากนัดแรก ถือเป็นเกมที่น่าขะมักเขม้นอย่างมาก ในเรื่องของประเด็นก่อนเกม หลังจากที่แฟนบอลลิเวอร์พูล ที่เสียชีวิต 96 คน จากเหตุการณ์ที่ฮิลล์สโบโร่ เมื่อ 23 ปีที่แล้ว จากผิดกลายเป็นถูก นั่นหมายถึง วิญญาณของแฟนบอลลิเวอร์พูล พูดได้เลยว่า นอนตายตาหลับแล้ว จนกระทั่งสุดท้ายเกมจบด้วยการที่ แมนฯยูฯ บุกมาชนะ ผลบอล 2-1 ด้วยการณ์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซี่ย์ ตัดสินหลายจังหวะของเกมที่กลายเป็นประเด็น และผลประโยชน์ตกไปอยู่กับฝั่งทีมเยือนไม่ว่าจะเป็นใบแดงของ จอนโจ้ เชลวี่ย์ หรือจะเป็นจุดโทษที่มันไม่ควรเป็น
< ใบแดงของ จอนโจ้ เชลวีย์ เป็นจุดเปลี่ยนของเกมในนัดแรก >
ไม่ค่อยได้เห็นที่ว่า จะมีแฟนบอลโพสต์ด่าให้ถึงกับเสียชีวิตกันไปข้างหลังจบเกม โดยเฉพาะเรื่องที่แช่งให้ ฮัลซี่ย์ กลับไปเป็นมะเร็งอีกครั้งหนนี้ก็เช่นกัน เรื่องของผู้ตัดสินถูกจับมาเป็นประเด็น เนื่องจาก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้จัด “จ่าเว็บบ์” ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกับ ฮาวเวิร์ด หวัง เป็นผู้ตัดสินในเกมนี้
อย่างที่เคยเห็นกันไป ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อสองซีซั่นก่อน เว็บบ์ เป็นผู้ตัดสินเกมแดงเดือด ครบครันกับให้จุดโทษตั้งแต่นาทีแรกของเกม แบบไม่น่าเชื่อว่าจะให้ต่อด้วยการไล่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออกจากสนาม สุดท้าย ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งได้ เคนนี่ ดัลกลิช รีเทิร์นกลับมาคุมทีมหนแรกในรอบเกือบ 20 ปี โดนรับน้องสยองขวัญกันไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนครั้งนั้นแรงมาก เพราะ ไรอัน บาเบิ้ล อดีตปีกตะเลงเต่งตุมของลิเวอร์พูล ได้โพสต์ภาพ เว็บบ์ ใส่เสื้อแมนฯยูไนเต็ด ผ่านทางเว็บสังคมออนไลน์ดังอย่าง “ทวิตเตอร์” จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตมาแล้ว
< ไรอัน บาเบล ตัดต่อภาพโฮเวิร์ด เว็บบ์ ใส่เสื้อแมนฯยูฯ จนทำให้ FA.ปรับเงิน 5 แสนบาท >
ไม่รู้เหมือนกันว่า แดงเดือดหนนี้ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นให้เป็นประเด็นแห่งการจับตามองหรือเปล่า เพราะทั้งฟอร์มการเล่น สถานะของตารางคะแนน ทั้งสองทีมต่างกันอย่างสิ้นเชิง แมนฯยูไนเต็ด นำจ่าฝูง ขณะที่ ลิเวอร์พูล กำลังไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับเลขตัวเดียวครั้งที่ 3 ของฤดูกาลปีนี้ทุกอย่างมันคนละเรื่อง แต่เกียรติยศนั่นคือเรื่องเดียวกัน เป็นเรื่องเดิมเรื่องเดียวที่ยอมกันไม่ได้
หลังจากคู่นี้ซัดกันแหลกลาญตั้งแต่ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมของประเทศอังกฤษ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทั้งสองเมืองนี้ประกวดความเป็นหนึ่งของดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือกันมาโดยตลอด กระทั่งสโมสรฟุตบอลก็บดบี้ขยี้กันมาตลอด และจะต้องตลอดกาล…ตลอดไปไม่ว่าปีไหนๆ ทั้งสองทีมจะอยู่ในสถานะไหน
“แดงเดือด”ก็ยังน่าติดตามทุกครั้งไป…เช่นเดิม!
ติดตาม ข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น