วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สิงโตฟอร์มขัด !เจ๊ายักษ์เขียวสุดหืด1-1

สิงโตฟอร์มฝืด!เจ๊ายักษ์เขียวสุดหืด1-1+คลิป



วิเคราะห์ผลบอล : อังกฤษ เล่นแบบไม่มีความกดดัน เปิดบ้านบ่อย ไอร์แลนด์ ไปแบบสันถวไมตรี หลังโดน ลอง โหม่งนำไปก่อน แต่ได้ "แลมพ์ส" ซัดตีเสมอ สุดท้ายเกมจบกันที่ 1-1

การแข่งฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องทีมชาติ ประจำคืนวันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2556 ที่สนามเวมบลี่ย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นการเจอกันระหว่างเจ้าบ้าน "สิงโตคำราม" อังกฤษ พบ"ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ รูปเกมในช่วงสิบนาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังหาหนได้ลุ้นประตูกันไม่มากนัก แม้จะมีหนรุกเข้าใส่แต่ก็ไม่ผ่านแนวรับด้วยกันทั้งคู่ น.13 หลังจากรูปเกมในช่วงแรกไม่ค่อยมีอะไร แต่กลายเป็นว่า อังกฤษ ต้องมาเสียประตูไปก่อน เมื่อ เชมัส โคลแมน เปิดจากฝั่งซ้ายไปที่จุดนับพบให้ เชน ลอง ได้โอกาสโหนโหม่งบอลย้อนทางหนีมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูไปอย่างหมดจด ไอร์แลนด์ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 หลังจากโดนนำไปก่อน ในที่สุดเมื่อมาถึงนาทีที่ 23 ทัพ "สิงโตคำราม" ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากโอกาสเหยียบไปของ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลุย เข้ามาถึงเขตอธิกรณ์ ก่อนจะเปิดเข้าไปตรงกลาง ฌอง เซนต์ เล็ดเจอร์ สกัดเพลี่ยงพล้ำลูกมาถึง แฟรงค์ แลมพาร์ด ได้ชาร์จจ่อๆ ผ่าน เดวิด ฟอร์เด เข้าไปแบบง่ายๆ ช่วยให้ทีมไล่มาเป็น 1-1 อังกฤษ โชคร้ายต้องมาเสีย สเตอร์ริดจ์ ออกจากสนาม หลังได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ในโอกาสโดน เกล็น วีแลน เสียบและขาไปลงพื้นไม่ดี ทำให้ทีมต้องส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงมาล่าประตูแทน ช่วงท้ายไม่มีฝ่ายไหนทำอะไรกันได้เพิ่มเติม หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อนด้วยผลบอล 1-1 กลับมาในช่วงครึ่งหลัง โดยที่ฝั่ง อังกฤษ จัดการเปลี่ยนตัวสำรองก่อนสองคนรวด ส่ง เบน ฟอสเตอร์ และ ฟิล โจนส์ ลงสนามแทน โจ ฮาร์ท กับ เกล็น จอห์นสัน ขณะที่ ไอร์แลนด์ ยังไม่มีการเปลี่ยนผู้เล่นสำรองแต่อย่างใด หลังจากนั้นผ่านไปไม่นาน "สิงโตคำราม" ก็เปลี่ยนตัวอีกครั้ง ถอด แอชลี่ย์ โคล ที่ได้ลงเล่นเป็นเกมนัดที่ 100 ในนามทีมชาติออกไป แล้วให้ เลห์ตัน เบนส์ ลงเล่นแทน น.65 อังกฤษ มาได้หนเล่นสวนกลับเร็ว เดโฟ กระชากจากกลางสนามถึงหน้าเขตอธิกรณ์ ก่อนจะป้ายต่อที่ให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่อยู่ทางขวา จับแล้วกดด้วยขวาเต็มเท้า แต่ เดวิด ฟอร์เด ยังนิ่งพอล้มตัวปัดออกไปได้อย่างรวดเร็ว ทางฝั่ง "ยักษ์เขียว" เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ไซม่อน ค็อกซ์ ลงสนามแทน ร็อบบี้ คีน ที่เกมนี้ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าที่ควร และต่อมาก็ถอด ไอเด้น แม็คเกียดี้ ออกเป็นคนที่สองแล้วให้ เจมส์ แม็คคลีน ลงสนาม เกมผ่านไปยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไอร์แลนด์ เปลี่ยนตัวโดยเอา เจฟ เฮนดริค ลงเพิ่มอีกคน แทนที่ของ เกล็น วีแลน น.75 ไอร์แลนด์ มาได้ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา เชน ลอง วิ่งมาปั่นด้วยซ้าย บอลเลี้ยวหาประตู แต่ก็ถลาเฉี่ยวสามเหลี่ยยมออกไปแบบได้ลุ้น เหล่าเยือนเปลี่ยนตัวอีกถอดเอา โจนาธาน วอลเตอร์ส ออกแล้วให้ คอนนอร์ แซมม่อน ลงสนามแทน น.83 อังกฤษ น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ตั้งท่าซัดหน้าเขตอธิกรณ์ บอลไปติดแนวรับคู่แข่งก่อนจะเข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ที่อยู่คนเดียวโล่งๆ ทางซ้าย ได้โอกาสกดเต็มเท้า แต่ก็ยังไปติดเข่าของ เดวิด ฟอร์เด ที่ออกมาป้องกันไปอย่างน่าเสียดาย อีกสามนาทีต่อมาเจ้าถิ่นยังเพลี่ยงพล้ำหนขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้ เดโฟ แทงให้ วัลค็อตต์ ที่เติมมาทางวาได้ซัดเต็มๆ แต่ก็ไม่ผ่าน ฟอร์เด ที่ยังล้มตัวป้องกันไว้ได้อีกเช่นเคย จากนั้น อังกฤษ จัดการถอด แชมเบอร์เลน ออก แล้วให้ เจมส์ มิลเนอร์ ลงมากลั่นแกล้งทางริมเส้นแทน ช่วงทดเจ็บร้าวท้ายเกมทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครได้จบสกอร์เพิ่มเติม หมดเวลา อังกฤษ เปิดบ้านเสมอกับ ไอร์แลนด์ ไป 1-1 รายชื่อผู้เล่น อังกฤษ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท (เบน ฟอสเตอร์ น.45) - เกล็น จอห์นสัน (ฟิล โจนส์ น.45), แกรี่ เคฮิลล์, ฟีล จากีลก้า, แอชลี่ย์ โคล (เลห์ตัน เบนส์ น.54) - ไมเคิ่ล คาร์ริค, แฟรงค์ แลมพาร์ด - ธีโอ วัลค็อตต์, เวย์น รูนี่ย์, อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน (เจมส์ มิลเนอร์ น.87) - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (เจอร์เมน เดโฟ น.33) ผู้เล่นสำรอง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - โจลีออน เลสค็อตต์ - แจ็ค ร็อดเวลล์ - แดนนี่ เวลเบ็ค รายชื่อผู้เล่น ไอร์แลนด์ (4-4-2) : เดวิด ฟอร์เด - เชมัส โคลแมน, จอห์น โอเช, ฌอง เซนต์ เล็ดเจอร์, สตีเฟ่น เคลลี่ - โจนาธาน วอลเตอร์ส (คอนนอร์ แซมม่อน น.82), เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เกล็น วีแลน (เจฟ เฮนดริค น.74), ไอเด้น แม็คเกียดี้ (เจมส์ แม็คคลีน น.69) - ร็อบบี้ คีน (ไซม่อน ค็อกซ์ น.66), เชน ลอง ผู้เล่นสำรอง ดาร์เรน แรนดอลฟ์ - คีแรน เวส์ตวูด - ริชาร์ด คอล - ดาร์เรน โอเดีย - พอล แม็คเชน - ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ - สตีเฟ่น ควินน์ - เดวิด เมเลอร์ - โรเบิร์ต เบรดี้ - เวสลี่ย์ ฮูลาแฮน

 


ผู้สนับสนุน “ผลการวิเคราะห์บอล” โดย : http://sport.sanook.com/football/

เรียบเรียงโดย : วิเคราะห์บอล ดอท เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น